วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

รักษาสิวจากภายใน

หลายคนคิดว่าเป็นสิวที่ไหน ก็แก้ปัญหาตรงนั้น เป็นสิวที่หน้า ก็ต้องล้างหน้าให้สะอาด ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว ที่เขาว่าดี ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ลดหน้ามัน ลดรูขุมขน ลดอักเสบ นานาประการ แต่เคยมั๊ยคะ ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ว่าดีขั้นเทพแค่ไหน ก็ไม่หายสักที แถมยังเป็นมากกว่าเดิม
สิวต้องใช้เวลา ต้องใจเย็นค่ะ ....ดังนั้นแอร์จึงสรุปว่า รักษาสิวจากบริเวณที่เป็นสิว เป็นสิวที่ไหนก็แก้ตรงนั้น ไม่ใช่แนวทางการรักษาที่ต้นเหตุค่ะ จากสาเหตุของการเป็นสิวที่แอร์ได้เล่าให้ฟัง... เกิดจากภายใน ดังนั้นก็ต้องแก้กันข้างในด้วยค่ะ   การรักษาสิวจากภายใน จากประสบการณ์ของแอร์ ซึ่งได้ศึกษาแนวทางการรักษาสิว จากคุณ seppo puusa สรุปดังนี้ค่ะ
1. การดีท็อกซ์ล้างพิษ
2. การรับประทานอาหารที่ไม่ก่อให้เกิดสิว
3.การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ
4. การดีท็อกซ์จิตใจ

......... ดีท็อกซ์ล้างพิษ โดยการขับพิษออกจากลำไส้ใหญ่ และ ตับ  การสวนล้างลำไส้ใหญ่ด้วยกาแฟเป็นวิธีที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตับของเรา ตับทำหน้าที่มากมายเกินกว่าที่เราคิดไว้มาก เป็นอวัยวะพิเศษของร่างกายที่สามารถซ่อมสร้างฟื้นตัวเองได้ ตับเป็นศูนย์ับัญชาการต่อสู้กับไวรัส แบคทีเรีย มะเร็ง ฯลฯ  รายละเีอียดเกี่ยวกับดีท็อกซ์ อ่านได้ที่ www.7stepsdetox.com
วิธีที่แอร์ใช้แล้วได้ผลมากมาย คือ การสวนล้างลำไส้ด้วยกาแฟค่ะ ^______^
ร่างกายของแอร์ กินยารักษาสิวมานาน อวัยวะภายในเสื่อม ฉะนั้นต้องทำการ รีบูทใหม่ค่ะ ยกเครื่องใหม่ทั้งหมด อิอิ ขอยืมภาษาช่างมาใช้ค่ะ ........
แนวทางการล้างพิษแบบยกเครื่่อง
วันที่ 1 .... 05.00 - 07.00 ขับถ่ายให้ได้ พยายามขับถ่ายออกให้หมด 
(สำหรับคนที่ขับถ่ายยาก ผู้มีปัญหาสิวส่วนมากมักมีปัญหาการขับถ่าย ตื่นเช้าให้ดื่มน้ำมะนาวอุ่น 2 แก้ว + ขมิ้นชัน 2 แคปซูล เืพื่อเป็นการชะล้างของเสียที่เกาะในลำไส้และกระตุ้นให้ลำไส้ทำงาน)
                07.00 - 08.00 สวนล้างลำไส้ด้วยกาแฟ 
ดีท็อกซ์ คือ การล้างลำไส้ใหญ่เพื่อล้างและกำจัดกากใยอาหารที่อาจตกค้างอยู่ตามรอยหยักของลำไส้ใหญ่และอาจเป็นของเสียที่มีพิษอันเป็นสาเหตุของมะเร็งลำไส้ สิว และโรคเรื้ัอรังอื่นๆ
การสวนล้างลำไส้ เป็นวิธีที่จะช่วยให้เรากำจัดของเสียที่ตกข้างอยู่ในลำไส้ ซึ่งการขับถ่ายปกติ ไม่สามารถนำของเสียเหล่านั้นออกให้หมดได้ เพราะอาจติดอยู่บริเวณผนังลำไส้ รอยหยัก ของลำไส้ 
ชุดเริ่มต้นการทำดีท๊อกซ์ ด้วยตัวคุณเองประกอบไปด้วย 
1. ถุงดีท๊อกซ์ ใช้ได้หลายครั้งขึ้นอยู่กับการเก็บรักษา
2.กาแฟดีท๊อกซ์  ชนิดชงละลายน้ำ ไม่ต้องต้ม ไม่ต้องกรอง ขนาด 100 ใช้ได้ประมาณ 10-15 ครั้ง   
   กาแฟที่ปลอดภัยเชื่อถือได้ ขึ้นทะเบียนอาหารและยา ( อย.10-1-27648-1-0001) 
   คุณสมบัติ : กาแฟสำหรับทำดีท็อกซ์แท้บริสุทธิ์ 100% ชนิดชงละลายทันที ไม่มีกาก

3. เจลทาปลายสายดีท๊อกซ์ เป็นเจลชนิด waterbase ไม่มัน ล้างออกได้ด้วยน้ำเปล่า
   ใช้ได้ประมาณ 20 ครั้ง และสะดวกในการทำดีท๊อกซ์ดียิ่งขึ้นเจลสำหรับทาปลายสายยางก่อน
    ทำดีท๊อกซ์ ช่วยให้สายยางหล่อลื่น
4. หนังสือ "คู่มือสวนล้างลำไส้ใหญ่ด้วยกาแฟ"
  
เป็นอุปกรณ์สำหรับทำดีท็อกซ์ด้วยกาแฟค่ะ การใช้ก็ไม่ยุ่งยาก มีคู่มือบอกวิธีใช้ แต่ที่จะยากลำบากสำหรับเราๆ ก็คือ "กลัวเจ็บ" ... เพราะคิดว่า การสอดสายยางจากถุงดีท็อกซ์เข้าทางรูทวาร ต้องเจ็บ แต่แอร์ขอบอกว่า ไม่เจ็บเลยค่ะ ไม่ต้องกลัว เพราะก่อนที่เราจะสอดสายยาง เราต้องทาเจลที่สายยางก่อน ห้ามใช้วาสลีนเด็ดขาด ต้องเป็นเจลทางการแพทย์เท่านั้นค่ะ สายยางจะลื่น แล้วค่อยๆ สอดเข้าไปช้าๆ ค่ะ ห้ามแรง ขณะทำดีท็อกซ์ด้วยกาแฟ ต้องทำจิตใจให้สบาย ผ่อนคลายให้มากที่สุด 
ให้นอนตะแคงขวาค่ะ (คู่มือจะมีบอกไว้) ใช้เวลาประมาณ 12 นาที ให้กาแฟเข้าไปกระตุ้นการทำงานของตับ และล้างสิ่งสกปรกออกจากลำไส้ใหญ่ แล้วให้ลุกไปถ่ายค่ะ ไม่ต้องเบ่งนะคะ เขาจะออกมาโดยอัตโนมัติ ก็จะพบว่า มีสิ่งสกปรกออกมาเต็มเลยค่ะ ลองทำดูนะคะ แรกๆอาจจะกลัว ทำบ่อยๆจะติดใจค่ะ จนอยากทำทุกวัน ซึ่งก็ไม่ผิดอะไรถ้าจะทำทุกวัน หากมีเวลา 


08.00 - 09.00 ทานน้ำปั่นผักผลไม้ สูตรล้างพิษ
สูตรน้ำปั่นผักผลไม้ ........
1.แอปเปิ้ล 1 ลูก
2.ผักกาดหอม(ผักสลัด)    1 กำ (ประมาณ 10 ใบค่ะ)
3.คื่นช่าย    2  ต้น
4.มะเขือเทศ  1 ลูก
5.ขิง        1/2 แง่ง
6.มะนาว        1- 2 ลูก
7. น้ำอุ่น 1 แก้ว (ตามความเหมาะสมของปริมาณส่วนผสม)นำส่วนผสมทุกอย่างปั่นให้เข้ากัน ละเอียดเป็นเนื้อเดียวกัน ดื่มระหว่างวัน ให้ได้ปริมาณ 6 แก้ว / วัน ถ้าหิวให้จิบตลอด
ในระหว่างวันต้องดื่มน้ำเปล่าด้วยนะคะ เพื่อให้ร่างกายมีน้ำหล่อเลี้ยง ......

อาจทรมานในช่วงแรกค่ะ เพราะร่างกายต้องการอาหาร แต่ทำเถอะค่ะ ได้ผลดีแน่นอน ร่างกายเขาแค่ต้องการอาหาร เหมือนที่เขาเคยได้รับตลอดมา แต่การดื่มแต่น้ำผักผลไม้ปั่น เป็นการให้ร่างกายเขาได้หยุดพักผ่อนไม่ต้องทำงานหนักสักวันค่ะ ......... ู^^

มื้อเช้า - เที่ยง - เย็น : ให้ดื่มแต่น้ำผักผลไม้ที่ปั่นไว้ค่ะ ให้ได้ปริมาณ 6 แก้ว ทั้งวัน

ให้เข้านอนไม่เกิน 5 ทุ่ม ........ เป็นไปได้ ไม่ควรเกิน 4 ทุ่ม รีบนอนแต่หัววันค่ะ เพื่อร่างกายที่สดชื่นกระปรี้ประเปร่า .......
ตื่นเช้าออกกำลังกายเบาๆ แอร์เลือก ทำโยคะ ค่ะ เพราะได้กำลังดี และฝึกสมาธิ ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี ไม่ควรออกกำลังกายหักโหมนะคะ  ปล.โยคะช่วยให้หน้าใสได้นะคะ ลองหยิบหนังสือโยคะ ดีๆ สักเล่มที่ร้านหนังสือมาอ่าน และฝึกปฏิบัติดูค่ะ รับรองเห็นผล ......

วันที่ 2 ทำเหมือนกันกับวันแรก

วันที่ 3  ไม่ต้องสวนล้างลำไส้ด้วยกาแฟ แต่ให้ดื่มน้ำมะนาวอุ่น 2 แก้ว และขมิ้นชัน 2 แคปซูล 
เริ่มมื้อเช้าด้วยน้ำปั่นผักผลไม้ เหมือนเดิม จำนวน 2 - 3 แก้ว มื้อเที่ยงให้เริ่มทาน น้ำเต้าหู้ หรือ นมถั่วเหลือง สูตรหวานน้อย (แอร์เลือกดีน่างาดำ) น้ำตาลน้อยดีค่ะ และมื้อเที่ยงยังคงทานน้ำปั่นผักผลไม้ 2 แก้ว มื้อเย็น ก็เป็นน้ำปั่นผักผลไม้ เช่นเดิม จำนวน 2 แก้ว (ถ้าหิวให้ดื่มนมถั่วเหลืองได้ค่ะ)
ผิวจะเริ่มรู้สึกเต็ม ดูผ่องๆ มีน้ำมีนวล


วันที่ 4 เหมือนวันที่ 3 มื้อเช้ายังคงเหมือนเดิม แต่ให้ดื่มนมถั่วเหลืองเป็นมื้อเช้าด้วยค่ะ
มื้อเที่ยง เริ่มด้วยสลัดผัดผลไม้ ชามโต (เอาแค่อิ่มพอค่ะ ไม่ควรใหญ่มาก) ควรเป็นน้ำสลัดใส หรือ น้ำสลัดฟักทอง สลัดควรมีผักมากกว่าผลไม้ ...... แนะนำให้เป็นผักใบเขียวในปริมาณมาก
มื้อเย็น ทานน้ำปั่นผักผลไม้ 2 แก้ว + นมถั่วเหลือง

วันที่ 5 เหมือนวันที่ 4 ให้เริ่มมื้อเช้าด้วยสลัดผัก น้ำปั่นผักผลไม้ ลดจำนวน เป็น 1 แก้ว 
มื้อเที่ยงให้เริ่มทานข้าวกล้องเปล่าๆ เคี้ยวให้ละเอียด จนข้าวนิ่ม เพื่อให้ได้น้ำข้าว ซึ่งคนโบราณเชื่อว่า น้ำข้าวเป็นยาวิเศษที่รักษาได้ทุกโรค ค่อยๆ ทานนะคะ ร่างกายเพิ่งได้รับอาหาร สองมื้อ ในวันนี้
ตอนบ่าย ลองหาผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น รับประทานค่ะ เช่น แก้วมังกร แอปเปิ้ล  สาลี่ แตงโม ผลไม้ต้องทานเดี่ยวๆ ค่ะ คือ หลังจากที่เราคิดว่า ข้าวกล้องที่ทานไปย่อยดีแล้ว ไม่ควรทานพร้อมข้าวเพราะร่างกายจะทำการย่อยอย่างหนัก เป็นภาระค่ะ
มื้อเย็น  ลองหาธัญพืชมาทาน ค่ะ เช่น งาดำ ถั่วต่างๆ ลูกเดือย ทานคู่กับนมถั่วเหลือง แต่ห้ามทานเยอะนะคะ เอาพอให้รู้สึกว่า ร่างกายพอมีแรง และอย่าลืมดื่มน้ำปั่นผักผลไม้ จำนวน 2 แก้ว ด้วยค่ะ

วันที่ 6 เหมือนวันที่ 5 แต่ให้เพิ่มการดีท็อกซ์ ด้วยผงไฟเบอร์ เพราะร่างกายของเราเริ่มปรับมาทานอาหารปกติ ลดปริมาณน้ำผักผลไมัปั่นลง แล้วทานผงไฟเบอร์  ที่แอร์เลือก คือ ยี่ห้อ ไลฟ์เทคไฟเบอรรี่ ดีท็อกซ์  เคยทานมาหลายยี่ห้อ แต่คิดว่ายี่ห้อนี้ทานง่ายสุดและให้ผลที่ดีที่สุด  ที่สำคัญราคาถูกกว่า ไฟโต ไฟเบอร์ ที่เคยทาน และไม่ค่อยหนืดง่าย ผสมกับน้ำเปล่าก็อร่อยแล้วค่ะ
ไลฟ์เทคไฟเบอรรี่ ราคากล่องละประมาณ 700 กว่า (คร่าวๆ)


ผงไฟเบอร์ให้ทานก่อนนอน หรือ จะทานก่อนอาหารเย็นยิ่งดีค่ะ ผสมกับน้ำเปล่าในแก้วเช็ค ซึ่งจะแถมมาให้ ดื่มรวดเดียวให้หมด เพราะถ้าทิ้งไว้นาน จะหนืดจับตัวเป็นก้อน เพราะมีส่วนผสมของธัญพืชที่จะเป็นเหมือนฟองน้ำนุ่มๆ คอยขัดลำไส้ใหญ่ให้สะอาดค่ะ เมื่อเราดื่มเข้าไป
ไลฟ์เทคตัวนี้  เหมือนเป็นนาฬิกาคอยเตือนเวลาขับถ่าย  เขาจะทำงานในตอนเช้า เวลา ตีห้า ถึง เจ็ดโมงโดยประมาณ บางคน มีอาการอยากถ่ายเร็วกว่านั้น คือประมาณ ตีสาม ถึงตีห้า  และจะปวดถ่ายอีกที ตอนใกล้เที่ยง ดร.ทอม อู๋ แพทย์ทางเลือก กล่าวว่า คนสุขภาพดีควรขับถ่ายให้ได้วันละ 3 ครั้ง เพราะรับประทานอาหาร 3 เวลา ซึ่งแอร์คิดว่า ผงไฟเบอร์ช่วยให้ขับถ่ายได้ตรงเวลา จำนวน 2 - 3 ครั้ง

วันที่ 7 ให้เริ่มทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ แต่ ขอย้ำว่าอาหารในกลุ่ม  "โปรตีน และ คาร์โบไฮเดรต" ไม่ควรทานพร้อมกัน เช่น ทานไขต้มกับข้าวกล้อง ไม่ควรค่ะ ควรจะทานเดี่ยวๆ และอย่าลืมทานน้ำผักผลไม้ปั่น มื้อละ 1 แก้วด้วยค่ะ 

อาหารที่ควรทาน และ อาหารที่ควรงดโดยเด็ดขาด มีอะไรบ้าง เรามาดูกันค่ะ
อาหารที่ควรงด!!!!!!
1. เบเกอรี่ ทุกชนิด
2. ข้าวขัดสี ข้าวขาว
3. ของหวาน 
4. ของทอด
5. ของมัน
6. ช็อกโกแลต
7. นมวัวและผลิตภัณฑ์จากวัว เนื้อ เนย ชีส
8. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
9. ชา กาแฟ
10. น้ำอัดลม
11. ไอศครีมที่ทำจากนม
12. เป็นไปได้ควรงดทานเนื้อสัตว์ทุกชนิด ยกเว้นปลา

อาหารที่ควรทาน
1. ผักผลไม้สด  ผักใบเขียว ผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น
2.ข้าวกล้อง
3.ธัญพืช
4.นมถั่วเหลือง
6. อาหารประเภท ต้ม ลวก นึ่ง
7.เต้าหู้ 
8.ปลา




พยายามรับประทานผักผลไม้ ให้สดมากที่สุด การรับประืทานแบบดิบๆ ทำให้ได้คุณค่าสารอาหารจากผักผลไม้นั้นได้อย่างเต็มที่ เช่น ทานแบบเป็นสลัดผัก เป็นการทานอาหารแบบไม่ผ่านกระบวนการปรุงแต่งอาหาร  คงไว้ซึ่งคุณค่าของอนินทรียสารในผักผลไม้นั้นๆ

การดื่มน้ำ ......... ควรดื่มให้ได้ วันละ 8 แก้ว ต่อวัน (ไม่ควรดื่มรวดเดียวหมด เพราะร่างกายนำไปใช้ไ่ม่ทัน แต่ ต้องจิบ ทีละน้อย ทั้งวัน ไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ)  ตอนเช้าควรดื่ม 2 แก้ว เพื่อเป็นการกระตุ้นลำไส้ให้ทำงาน ตื่นเช้ามา ดื่มเลยค่ะ 2 แก้ว

ดีท็อกซ์จิตใจ  เป็นสิวแน่นอนว่า ย่อมก่อให้เกิดความเครียด แต่ความเครียดเป็นบ่อเกิดของสิว บ่อนทำลายสุขภาพ  ให้เราลองนั่ง นิ่งๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ ลองจินตนาการว่า ผิวหน้าของเราใสไร้สิว ผิวสุขภาพดี ใบหน้าเนียน เปล่งปลั่ง ลองฝึกจิตนาการแบบนี้ดูสัก 3 - 5 นาที  ดีท็อกซ์จิตใจได้ผลดีมากๆ ค่ะ  ลองนึกดูนะคะ ว่าหน้าเราไม่มีสิวแล้ว  วิธีนี้ช่วยให้เราคิดบวกมากขึ้น  มองตัวเองในทางบวกมากขึ้น ............ พยามยาม อย่าเครียด  หลีกเลี่ยงสถานที่ สถานการณ์ที่กระตุ้นให้เราเกิดความเครียด แล้วผิวหน้าใสๆ ไร้สิว ก็จะเป็นของคุณค่ะ 




สัปดาห์หน้า แอร์จะมาเล่า ถึงการรักษาสิวจากภายนอกกันบ้าง ............ สัปดาห์นี้อยากให้ทุกคนที่มีปัญหาเหมือนกันลองฝึกปฏิบัติตามวิธีที่แอร์เคยทำมาแล้วได้ผลดี ลองดูค่ะ !!! ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ  ผิวสวยง่ายๆ ได้สุขภาพดีด้วยค่ะ ...........








                                     

3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ4 สิงหาคม 2557 เวลา 07:29

    อยากแนะนำดอกเตอร์มายคลินิค เรารักษาสิวอยุ่ที่นี้ ที่นี้ช่วยรักษาหน้าเราจากหน้าสิวๆให้กลายเป็นหน้าใสแบบคนอื่นซักที

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. คลีนิคตั้งอยู่ที่ไหนบ้างคะ

      ลบ
  2. หาซื้อชุดดีท็อกได้ตากที่ไหนครับ

    ตอบลบ